วิธีหยุดอาการหัวร้อนในที่ทำงาน

หากคุณเป็นคนที่มักเกิดอารมณ์หงุดหงิดเวลาที่เจอปัญหาในที่ทำงาน หรือต้องทนทำงานอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัด จนทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกับการมาทำงาน อยากให้คุณลองหันมาจัดการ ‘ความโกรธ’ ที่อยู่ในตัว เพื่อให้ทำงานอย่างมีความสุขขึ้น

“เพราะการปรับเปลี่ยนองค์กรหรือบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก การฝึกฝนตัวเองให้สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้นั้นง่ายกว่า เร็วกว่าและดีกว่า และขอให้คิดไว้เสมอว่า การแสดงความโกรธที่ไม่เหมาะสมนั้นจะเพิ่มปัญหาในการทำงาน บั่นทอนความก้าวหน้าในอาชีพ และสร้างปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง” โดยมีวิธี จัดการความโกรธในตัวเอง ดังนี้

1.รู้ทันและยอมรับอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น

ทำความเข้าใจธรรมชาติความโกรธของตัวเอง และให้ฝึกสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกอารมณ์โกรธ คุณมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้อารมณ์โกรธทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น

2.เริ่มจัดการอารมณ์

เมื่อตระหนักรู้ถึงอารมณ์โกรธแล้ว เราควรสร้างความผ่อนคลายทันที เช่น หลีกเลี่ยงการโต้ตอบในเวลาที่คุณโกรธ และหากเป็นไปได้คุณควรหยุดสิ่งที่ทำอยู่และออกจากสถานการณ์นั้น เพื่อหาพื้นที่ส่วนตัวจัดการอารมณ์ของตัวเองเสียก่อน 

3.ปลดปล่อยความคับข้องใจ

หายใจเข้าลึก หายใจออกยาวอย่างช้าๆ ควบคุมลมหายใจให้ช้าลง อาจจะพักเปลี่ยนอิริยาบถ ฟังเพลง พักดื่มน้ำเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย หรือหาพื้นที่เดินผ่อนคลายอารมณ์เพียงลำพัง

4.ควบคุมอารมณ์และหยุดความคิด

มาพยายามควบคุมอารมณ์และหยุดความคิดด้านลบ หรือหากไม่สามารถทำได้ อาจใช้วิธีการเขียนระบายออกสิ่งที่อึดอัดอยู่ภายในแล้วทำลายทิ้ง ไม่ควรโพสต์ข้อความระบายอารมณ์ทางโลกโซเซียล เพราะไม่ส่งผลดีและยังสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่ตัวเอง หรือถ้าหากมีใครที่คุณไว้วางใจและพร้อมที่จะรับฟังเราควรหาพื้นที่ส่วนตัวพูดคุยเพื่อระบายได้เช่นกัน

5.ปรับองศาความคิดเป็นเชิงบวก

เมื่ออารมณ์ของคุณนิ่งขึ้นแล้ว ขอให้คุณเริ่มทำงานกับการจัดการความคิดของตนเอง ปรับเปลี่ยนมุมมองให้เป็นเชิงบวก ยอมรับว่าสิ่งต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปอย่างที่คุณต้องการได้ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ควรยึดติดอยู่กับอารมณ์โกรธ

6.เรียนรู้ที่จะสื่อสารอารมณ์โกรธอย่างเหมาะสม

มุ่งประเด็นไปที่ต้นเหตุของความโกรธ และหาวิธีการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้คุณควรคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนการสื่อสาร

7.แยกแยะความโกรธที่มาจากเรื่องส่วนตัวออกจากการทำงาน

หากความโกรธมาจากปัจจัยส่วนตัว คุณควรระมัดระวังไม่ให้อารมณ์ส่วนตัวมาเป็นประเด็นปัญหา แยกแยะความโกรธที่มาจากเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน

8.เติมพลังบวกให้ชีวิต

นอกเหนือจากเวลาทำงานแล้ว ควรเติมพลังบวกให้กับตัวเอง ด้วยการทำสิ่งที่ชอบที่ทำแล้วมีความสุข หรือทำกิจกรรมที่ช่วยฝึกฝนการจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ งานศิลปะ เสริมสร้างพลังกายและพลังใจ จะช่วยส่งผลต่อการจัดการความเครียดได้ดีขึ้นอีกด้วย

Credit by : thestandard

เข้าชมหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ https://imp-online.com

สนใจหลักสูตร หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Line : @impressiongroup (มี@ด้วย)
Link : https://lin.ee/iyrg0uD
TEL : 081-988-9979 / 091-730-8979