ทำไมการฝึกอบรมพัฒนาทักษะพนักงานส่วนใหญ่ถึงไม่ประสบความสำเร็จ เท่าที่ควร

     การจัดอบรมพัฒนาทักษะพนักงานส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จอาจเกิดขึ้นเนื่องจากหลายปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการอบรมและการพัฒนาทักษะ บางครั้งความหมายของ “ไม่ประสบความสำเร็จ” อาจคือการที่ผู้เรียนไม่ได้นำความรู้และทักษะที่เรียนมาใช้ในการปฏิบัติงานหรือส่งผลลดลงในการดำเนินงานขององค์กร

นี่คือบางสาเหตุที่อาจทำให้การอบรมไม่ประสบความสำเร็จ

  1. การไม่นำความรู้ไปใช้ในปฏิบัติจริง: หลังจากได้รับการอบรมแล้ว ความสำเร็จขึ้นอยู่กับว่าพนักงานสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้มาประยุกต์ใช้ในงานประจำหรือไม่ หากพนักงานไม่สามารถนำความรู้ไปใช้จริง การอบรมอาจไม่มีผลกระทบที่ดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและองค์กร

  2. ขาดการสนับสนุนจากองค์กร: การอบรมอาจไม่ประสบความสำเร็จหากไม่มีการสนับสนุนจากองค์กรหรือผู้บริหาร การสนับสนุนเช่นนี้อาจมาจากการให้ทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับการประมวลผลความรู้หรือแม้แต่การให้กำลังใจและรับฟังความคิดเห็นของพนักงานที่ได้รับการอบรม

  3. ไม่มีการวัดผลและประเมิน: การวัดผลและประเมินความสำเร็จของการอบรมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถรับรู้ว่าการอบรมนั้นเป็นประโยชน์หรือไม่ หากไม่มีการวัดผลและประเมินอาจทำให้ไม่มีการปรับปรุงหรือปรับแก้เนื้อหาการอบรมที่ไม่เหมาะสม

  4. การอบรมที่ไม่เหมาะสม: เนื้อหาหรือวิธีการอบรมอาจไม่เหมาะสมกับผู้เรียนหรือสภาพแวดล้อมทางการทำงาน นี่อาจทำให้ผู้เรียนไม่ได้รับประโยชน์จริงจากการอบรมและไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานได้อย่างเหมาะสม

  5. ขาดแรงจูงใจและความรับผิดชอบของผู้เรียน: แม้ว่าการอบรมจะมีเนื้อหาที่ดีและเหมาะสม หากผู้เรียนไม่มีแรงจูงใจในการเรียนรู้และไม่รับผิดชอบในการพัฒนาตนเอง การอบรมก็อาจจะไม่สำเร็จ

  6. ขาดการนำเสนอและการฝึกปฏิบัติ: การเรียนรู้ที่มีเฉพาะการนำเสนอทฤษฎีอาจไม่เพียงพอในการพัฒนาทักษะ การฝึกปฏิบัติและการสร้างประสบการณ์จริงในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับงานจริงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การอบรมมีความสำเร็จ

แนวทางการจัดอบรมพัฒนาทักษะพนักงานเพื่อความประสิทธิภาพสูงสุดสามารถนำไปปฏิบัติได้ดังนี้

  1. วางแผนอบรมเป็นระยะ: กำหนดแผนการอบรมที่ชัดเจนโดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้ทราบว่าความรู้และทักษะที่ต้องพัฒนาคืออะไรและจะไปสู่ที่ไหน

  2. ปรับเนื้อหาให้เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบเนื้อหาการอบรมให้เกี่ยวข้องกับงานหรือภารกิจที่พนักงานต้องการ หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่ไม่จำเป็นและเนื้อหาที่เกินขนาด

  3. ใช้วิธีการอบรมที่เหมาะสม: เลือกวิธีการอบรมที่เหมาะสมกับเป้าหมายและเนื้อหา เช่น อบรมแบบปฏิบัติการหรือการฝึกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน

  4. การสนับสนุนและติดตาม: มีระบบสนับสนุนหลังการอบรมเพื่อช่วยในการนำความรู้ไปใช้ในงานประจำวัน และติดตามผลการอบรมเพื่อวัดความสำเร็จและปรับปรุงต่อไป

  5. การประเมินและข้อติเตียนสอบ: ให้มีการประเมินความรู้และทักษะหลังจากการอบรม เพื่อวัดความสำเร็จและหาข้อติเตียนสอบเพื่อปรับปรุงการอบรมในอนาคต

  6. การมอบความรับผิดชอบ: ให้ผู้เรียนรับความรับผิดชอบในการพัฒนาตนเอง และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

  7. การใช้เทคโนโลยี: การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงเนื้อหาและการอบรม

  8. รับฟังความคิดเห็น: รับฟังความคิดเห็นจากผู้เรียนเพื่อปรับปรุงการอบรมให้ดียิ่งขึ้น

  9. การแบ่งหลักสูตร: แบ่งหลักสูตรการอบรมเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อไม่ให้ข้อมูลเป็นมากเกินไปและเพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสศึกษาทีละส่วน

  10. เซสชั่นอบรม: จัดอบรมเป็นเซสชั่นเพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสปรับตัวและนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานระหว่างเซสชั่น

     สรุปได้ว่า ปัจจัยหลายอย่างสามารถมีผลต่อความสำเร็จของการจัดอบรมพัฒนาทักษะพนักงาน การวางแผนและออกแบบอบรมที่เหมาะสม การสนับสนุนจากองค์กรและผู้บริหาร การวัดผลและประเมิน การสร้างแรงจูงใจและความรับผิดชอบในการเรียนรู้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้การอบรมสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

IMPRESSION GROUP

Call Center – TEL.081-988-9979

TRAINING – TEL. 02-9217921 , 085-502-7921 , 090-952-0441

CONSULT / SURVEY / AUDIT – TEL. 081-104-8424