ในยุคที่โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน คนทำงานจำนวนมากพยายามเร่งสปีดตัวเองให้ทันกับเป้าหมายและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน คำว่า “หมดไฟ” หรือ Burnout ก็กลายเป็นเรื่องปกติของคนเก่งจำนวนไม่น้อย
จะดีกว่าไหม… ถ้ามี “โค้ชส่วนตัว” ที่ช่วยวางแผน คิดไอเดีย แก้ปัญหา และสะท้อนมุมมองใหม่ให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง?
วันนี้ Generative AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่กลายเป็น “ผู้ช่วยคิด” และ “โค้ชพัฒนาตัวเอง” ที่ช่วยให้คุณเก่งขึ้นได้โดยไม่ต้องแลกกับสุขภาพจิตหรือเวลาในชีวิต
ทำไมคนเก่งถึง Burnout?
เพราะพยายามเก่งขึ้นด้วยตัวเองล้วน ๆ ต้องคิดเอง ทำเอง ตัดสินใจเอง แก้ปัญหาเอง และรับมือกับแรงกดดันโดยไม่มีที่ปรึกษา
ในขณะที่ AI สามารถเป็น “โค้ชเงียบ” ที่ช่วยประหยัดพลังสมองคุณได้มหาศาล ทั้งในเรื่องการวางแผน ตัดสินใจ สื่อสาร หรือแม้กระทั่งการสะท้อนความคิด
เปลี่ยน AI ให้กลายเป็นโค้ชพัฒนางาน
Generative AI อย่าง ChatGPT, Claude หรือ Gemini ไม่ได้เป็นแค่ตัวช่วยพิมพ์งาน แต่สามารถเป็นเครื่องมือฝึกคิด วางแผน และพัฒนาตัวเองได้ในเชิงลึก เช่น
- ให้ AI ถามคำถามแนวโค้ช เพื่อช่วยคุณคิดภาพใหญ่ของเป้าหมาย
- ให้ AI วิเคราะห์ pattern งานที่ใช้เวลามากที่สุด พร้อมแนะนำการจัดการพลังงาน
- ใช้ AI เป็นกระจกสะท้อนความคิด เพื่อหาคำตอบที่อยู่ข้างในคุณ ไม่ใช่แค่บน Google
ตัวอย่างจากองค์กร:
McKinsey & Company ใช้ Generative AI ช่วยให้ที่ปรึกษาวางแผนโปรเจกต์ซับซ้อน วิเคราะห์ความเสี่ยง และสร้างแนวทางการสื่อสารกับลูกค้าได้ไวขึ้น
โดยเฉพาะในทีมระดับต้น ที่ยังต้องการคำแนะนำ AI จึงเป็นเหมือนโค้ชประจำโต๊ะที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนาเร็วขึ้นโดยไม่หมดแรง
ใช้ AI พัฒนาทักษะชีวิต ไม่ใช่แค่งาน
ไม่ใช่แค่ productivity ในงานเท่านั้น แต่ AI ยังสามารถช่วยเรื่อง “การพัฒนาทางความคิด” เช่น
- ช่วยจัดระบบความคิดก่อนพูด หรือเขียนสื่อสารกับคนอื่น
- ให้ feedback กับไอเดียที่คุณไม่มั่นใจ
- ช่วยจำลองบทสนทนาในสถานการณ์สำคัญ เช่น การขอขึ้นเงินเดือน หรือการพูดคุยกับหัวหน้า
- ช่วยออกแบบชีวิตประจำวันให้สมดุลระหว่างงานกับสุขภาพ
ตัวอย่างจากองค์กร:
Google สนับสนุนการใช้ Generative AI ภายในเพื่อช่วยให้พนักงานออกแบบแผนพัฒนาทักษะส่วนตัว หรือ career roadmap
โดยให้ AI วิเคราะห์เส้นทางที่คนในตำแหน่งคล้ายกันเคยเติบโต พร้อมแนะนำหลักสูตรพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายส่วนบุคคล
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ใช้ AI เป็น… แต่ต้องใช้ AI เพื่อเป็น “ตัวคุณที่ดีขึ้น”
Generative AI ไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้นแค่จากข้อมูล แต่มันช่วยให้คุณ คิดได้ลึกขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น และใช้พลังให้คุ้มมากขึ้น
มันไม่ได้แทนความสามารถของคุณ แต่ช่วยปลดล็อกสิ่งที่คุณทำได้อยู่แล้ว…ให้ชัดขึ้น ง่ายขึ้น และยั่งยืนขึ้น
สรุป
Generative AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ “โค้ชที่ปรับตามคุณได้ตลอดเวลา”
คนเก่งยุคนี้จึงไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างคนเดียว แต่รู้วิธีใช้ “AI เป็นคู่คิด” เพื่อขับเคลื่อนตัวเองอย่างสมดุลและฉลาดขึ้นหากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางให้พนักงานใช้ AI เพื่อเพิ่มทั้งศักยภาพและคุณภาพชีวิตในการทำงาน
เราพร้อมช่วยออกแบบโปรแกรมที่ใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่สอน แต่เน้นการ “คิดร่วมกับ AI” อย่างมืออาชีพ